วันที่จัดอบรม 25 – 26 มีนาคม 2568
สถานที่ อาคารฝึกอบรม ชั้น 2 ห้อง 2
จัดโดย สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
วิทยากร
คุณเบญสิร์ยา ปานปุญญเดช – หัวหน้าฝ่ายบริการวิชาการและข้อมูล (บรรยาย จำนวน 11 ชั่วโมง)
คุณพัชรี ญานสาร – งานพัฒนาและเผยแพร่ข้อมูลบนเว็บไซต์ (บรรยาย จำนวน 3 ชั่วโมง)
คุณปัทมาวรรณด่านกลาง – งานพัฒนาและเผยแพร่ข้อมูลบนเว็บไซต์ (ผู้ช่วยวิทยากร)
พรีเซ็นต์ประกอบการบรรยาย
จัดทำโดยคุณเบญสิร์ยา ปานปุญญเดช (จำนวน 140 สไลด์)
จัดทำโดยคุณคุณพัชรี ญานสาร (จำนวน 49 สไลด์)
ปลดล็อกพลังการสื่อสาร “Content Writers Bootcamp” ยกระดับบุคลากรสู่การเป็นนักเล่าเรื่องดิจิทัลมืออาชีพ!
ในยุคดิจิทัลที่การสื่อสารผ่านหน้าจอมีบทบาทสำคัญ “การเขียนเชิงสร้างสรรค์” ได้กลายเป็นเครื่องมือทรงพลังในการถ่ายทอดสาระ สร้างการจดจำ และส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ…ด้วยเหตุนี้ สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มทร.ธัญบุรี จึงได้จัดโครงการอบรม การเขียนเชิงสร้างสรรค์ Content Writers Bootcamp (สำหรับผู้ดูแลเว็บไซต์) ให้ทันยุค ทันเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด
“การเขียน” ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเรียบเรียงตัวอักษรให้ถูกต้องอีกต่อไป แต่คือหัวใจสำคัญในการสร้างการจดจำ ถ่ายทอดภาพลักษณ์ และเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับองค์กร หากเนื้อหาที่ส่งออกไปไม่น่าสนใจ ก็อาจถูก “เลื่อนผ่าน” ไปในเสี้ยววินาที สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เล็งเห็น จึงได้จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “Content Writers Bootcamp” ขึ้น ในวันที่ 25 – 26 มีนาคม 2568 ณ อาคารฝึกอบรม ชั้น 2 ห้อง 2
ทำไมโครงการนี้จึงสำคัญต่อบุคลากร?
โครงการนี้ไม่ได้มุ่งแค่ “สอนเขียน” แต่เป็นการ “เปิดโลกการเขียนยุคใหม่ สู่การเป็นนักเล่าเรื่องดิจิทัล” ที่เข้าใจพฤติกรรมผู้อ่านยุคโซเชียลอย่างลึกซึ้ง บุคลากรผู้ดูแลเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยจะได้ติดอาวุธสำคัญ เพื่อ:
- สร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพ เรียนรู้หลักการเขียนบทความให้ดึงดูด สนุก และมีเอกภาพ พร้อมเทคนิคตั้งชื่อเรื่องให้น่าสนใจจนต้อง “คลิกอ่าน”
- พิชิตใจผู้อ่านยุคดิจิทัล เข้าใจกลไกการทำงานของแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Facebook, เว็บไซต์, Line Official, Twitter เพื่อสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
- ก้าวทันเทคโนโลยี เจาะลึกกลยุทธ์การเขียนแบบ SEO เพื่อให้บทความ “ติดหน้าแรก Google” และที่สำคัญคือ การประยุกต์ใช้ AI Tools ยอดนิยมอย่าง ChatGPT และ Gemini ในการช่วยร่าง ตรวจคำ และปรับสำนวน เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและแม่นยำในการทำงาน
- ผสานการตลาดดิจิทัล ไม่ใช่แค่เขียนให้ข้อมูล แต่ยังสามารถสร้างเนื้อหาที่ “สื่อสารอย่างมีกลยุทธ์” เพื่อประชาสัมพันธ์หลักสูตร ดึงดูดนักศึกษา หรือนำเสนอจุดแข็งขององค์กรได้อย่างทรงพลัง
เจาะลึกการสร้างสรรค์เนื้อหา กุญแจสู่การสื่อสารที่เหนือกว่า
การเขียนเชิงสร้างสรรค์ (Creative Writing) คือศิลปะการใช้ภาษาเพื่อสร้างสรรค์เนื้อหาที่น่าสนใจ มีชีวิตชีวา และกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกของผู้อ่าน ไม่ใช่เพียงแค่การนำเสนอข้อเท็จจริง แต่เป็นการเล่าเรื่องที่ชวนติดตาม ซึ่งมีความสำคัญและมีบทบาทอย่างยิ่งสำหรับการสร้างเนื้อหาลงในเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ของมหาวิทยาลัย เพราะช่วยให้เนื้อหาโดดเด่น สร้างความแตกต่าง กระตุ้นการมีส่วนร่วม และสื่อสารเรื่องซับซ้อนให้เข้าใจง่าย
พื้นฐานการเขียนคอนเทนต์ที่ดี บทความที่ดีต้อง “น่าอ่าน” ไม่ใช่แค่ “ถูกต้อง”
บทความที่ดีไม่ใช่แค่มีข้อมูลที่ถูกต้อง แต่ต้องน่าอ่าน เข้าใจง่าย และดึงดูดผู้อ่าน การเขียนเนื้อหาที่ดีต้องใช้ภาษาที่อ่านง่าย มีโครงสร้างที่ชัดเจน และเหมาะสมกับแพลตฟอร์มที่เผยแพร่ ควรคำนึงถึง:
- ภาษาที่เข้าใจง่าย: หลีกเลี่ยงศัพท์เฉพาะทางที่ซับซ้อน ใช้ประโยคที่กระชับ ตรงประเด็น
- โครงสร้างที่ชัดเจน: จัดระเบียบเนื้อหาให้เป็นระบบ ระบุหัวข้อหลัก หัวข้อรอง ใช้ย่อหน้า และอาจใช้สัญลักษณ์หัวข้อย่อยเพื่อให้อ่านง่าย
- เหมาะสมกับแพลตฟอร์ม: ปรับความยาว รูปแบบ และน้ำเสียง ให้เข้ากับลักษณะของแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น สื่อสังคมออนไลน์ควรสั้น กระชับ และมีรูปภาพดึงดูด
องค์ประกอบของคอนเทนต์ที่ดี
การเขียนคอนเทนต์ที่ดี คือการออกแบบประสบการณ์การอ่าน ซึ่งประกอบด้วย:
- สรุปแนวทางการตั้งชื่อเรื่องให้ดึงดูดใจ: ชื่อเรื่องคือด่านแรกที่ตัดสินใจ ควรใช้คำที่กระตุ้นความอยากรู้, ระบุประโยชน์, หรือใช้ตัวเลข/คำถาม
- ตัวอย่างการตั้งชื่อเรื่อง:
- เน้นประโยชน์ “เรียนต่อที่ RMUTT เปลี่ยนอนาคตคุณให้เป็นจริงได้!”
- กระตุ้นความสงสัย “AI ช่วยงานสถาปัตย์ได้จริงหรือ? มาหาคำตอบ!”
- ใช้ตัวเลข/ลิสต์ “7 เหตุผลที่นักศึกษาเลือกเรียนวิศวะที่ มทร.ธัญบุรี”
- คำถามชวนคิด “คุณพร้อมหรือยังสำหรับโลกการทำงานยุคดิจิทัล?”
- ตัวอย่างการตั้งชื่อเรื่อง:
- บทนำ (Introduction) ที่กระชับและน่าสนใจ ดึงดูดความสนใจผู้อ่านตั้งแต่ย่อหน้าแรก อาจใช้คำถาม สถิติที่น่าสนใจ หรือการเล่าเรื่องสั้นๆ
- เนื้อหา (Body) ที่แบ่งเป็นส่วนๆ แบ่งเนื้อหาออกเป็นย่อยๆ พร้อมหัวข้อรองที่ชัดเจน เพื่อให้อ่านง่าย ไม่น่าเบื่อ และจับใจความสำคัญได้รวดเร็ว อาจใช้ภาพประกอบ อินโฟกราฟิก หรือวิดีโอ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ
- บทสรุป (Conclusion) ที่รัดกุม สรุปใจความสำคัญของบทความ เน้นย้ำข้อคิด หรือกระตุ้นให้ผู้อ่านเกิดการกระทำ (Call to Action) เช่น “สมัครเลย!” “อ่านเพิ่มเติม”
การปรับปรุงและวัดผล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับงานประชาสัมพันธ์
การเขียนคอนเทนต์ไม่ใช่แค่เขียนแล้วจบไป แต่ต้องมีการติดตามและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง:
- วิเคราะห์ข้อมูล ใช้เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ (เช่น Google Analytics) เพื่อดูประสิทธิภาพของเนื้อหา
- ปรับปรุงตามผลลัพธ์ หากเนื้อหาใดไม่ได้รับความนิยม ควรพิจารณาปรับปรุง
- ทดสอบ A/B Testing ทดสอบเนื้อหาหรือหัวข้อที่แตกต่างกัน เพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุด
หลักการเขียนบทความให้ติด SEO (Search Engine Optimization)
SEO คือเทคนิคที่ช่วยให้บทความติดอันดับบน Google และเพิ่มการเข้าถึง ทำให้เนื้อหาของมหาวิทยาลัยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น โดยมีหลักการสำคัญ:
- การวิจัย Keyword ค้นหาคำหรือวลีที่กลุ่มเป้าหมายใช้ในการค้นหา
- การใส่ Keyword ในเนื้อหา แทรก Keyword อย่างเป็นธรรมชาติในชื่อเรื่อง, หัวข้อรอง, และกระจายไปทั่วบทความ
- คุณภาพของเนื้อหา สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง มีประโยชน์ และตอบโจทย์ผู้อ่าน
- โครงสร้างที่เหมาะสมกับ SEO ใช้ Tag HTML ที่ถูกต้อง (H1, H2) เพื่อช่วยให้ Search Engine เข้าใจโครงสร้าง
- การสร้างลิงก์ (Link Building) ทั้งการทำ Backlink และการลิงก์ไปยังแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
- ความรวดเร็วของเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่โหลดเร็วจะช่วยให้ผู้ใช้งานมีประสบการณ์ที่ดีขึ้น
ตัวอย่างการเขียนบทความและเนื้อหา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (RMUTT)
เพื่อเห็นภาพชัดเจน ลองดูตัวอย่างการเขียนเนื้อหาสำหรับ RMUTT:
ตัวอย่างหัวข้อ “หลักสูตรใหม่ AI & Robotics: อนาคตสดใสในยุคดิจิทัลที่ RMUTT”
บทนำ “ก้าวสู่ยุคแห่งนวัตกรรม! มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (RMUTT) ขอแนะนำหลักสูตรใหม่ล่าสุด ‘ปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์’ ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างผู้นำเทคโนโลยีแห่งอนาคต คุณพร้อมแล้วหรือยังที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมเปลี่ยนโลกไปพร้อมกับเรา?”
เนื้อหา (ส่วนหนึ่ง) “หลักสูตรนี้ไม่เพียงสอนทฤษฎี แต่เน้นการลงมือปฏิบัติจริงในห้องแล็บที่ทันสมัยที่สุดของเรา นักศึกษาจะได้เรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานการเขียนโค้ด การออกแบบหุ่นยนต์ ไปจนถึงการประยุกต์ใช้ AI ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น…” (ตามด้วยรายละเอียดวิชา หรือกิจกรรมเด่น)
ตัวอย่างงานออกแบบและการพัฒนา Content ให้น่าสนใจ
- Infographic สรุปสถิติน่าสนใจของมหาวิทยาลัย เช่น จำนวนศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จ หรืออัตราการได้งานของบัณฑิต
- Video Testimonial คลิปสัมภาษณ์ศิษย์เก่าหรือนักศึกษาปัจจุบัน เล่าประสบการณ์ตรงจากการเรียนที่ RMUTT
- Photo Album อัลบั้มภาพกิจกรรมเด่นๆ ของคณะหรือมหาวิทยาลัย พร้อม Caption ที่น่าสนใจและกระตุ้นการมีส่วนร่วม
การนำ AI มาช่วยในการเขียนบทความและเนื้อหาบน Website และสื่อออนไลน์ให้น่าอ่าน
เครื่องมือ Generative AI อย่าง ChatGPT, Gemini หรือ Copilot กำลังเข้ามาเปลี่ยนโลกของการสร้างคอนเทนต์อย่างสิ้นเชิง สามารถนำมาใช้เป็นผู้ช่วยในการเขียนบทความและเนื้อหาบนเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ให้มีคุณภาพและน่าอ่านยิ่งขึ้น และ Canva สำหรับช่วยในการออกแบบสื่อ
ข้อดีของ AI ในการเขียนเนื้อหา
- สร้างร่างแรกอย่างรวดเร็ว AI สามารถสร้างโครงร่างบทความ หัวข้อ หรือแม้กระทั่งเนื้อหาย่อหน้าแรกๆ ได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลาในการเริ่มต้น
- ช่วยระดมความคิด (Brainstorming) หากติดขัดเรื่องไอเดีย AI สามารถเสนอแนวคิดใหม่ๆ หรือมุมมองที่แตกต่างกันได้
- ปรับปรุงภาษาและสำนวน AI สามารถช่วยแก้ไขไวยากรณ์ ตรวจคำผิด ปรับสำนวนให้เป็นทางการมากขึ้น หรือเป็นกันเองมากขึ้นตามต้องการ
- สรุปเนื้อหา AI สามารถสรุปบทความยาวๆ ให้กระชับและเข้าใจง่าย หรือแปลงข้อมูลที่ซับซ้อนให้เป็นเนื้อหาที่ย่อยง่าย
- สร้างคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบ: สามารถใช้ AI สร้าง Headline, Social Media Caption หรือแม้กระทั่งสคริปต์สั้นๆ สำหรับวิดีโอ
ข้อควรระวัง ในการใช้งาน AI การใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ควรคำนึงถึงข้อควรระวังดังต่อไปนี้
แม้ AI จะมีประโยชน์มหาศาล แต่การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ควรคำนึงถึงข้อควรระวังดังต่อไปนี้
- ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล AI อาจสร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือล้าสมัยได้เสมอ มนุษย์ยังคงต้องเป็นผู้ตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของข้อมูล ก่อนนำไปเผยแพร่
- ปรับแก้ให้เป็นภาษาของเรา แม้ AI จะเขียนได้ดี แต่เนื้อหาที่ได้อาจขาด “ความเป็นมนุษย์” หรือ “น้ำเสียง” ที่เป็นเอกลักษณ์ขององค์กร ควรนำมาปรับแก้ ใส่ความคิดเห็น และประสบการณ์ส่วนตัว
- ระวังเรื่องลิขสิทธิ์และการลอกเลียนแบบ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อหาที่ AI สร้างขึ้นไม่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือลอกเลียนแบบจากแหล่งอื่น
- ให้ AI เป็นผู้ช่วย ไม่ใช่ผู้ทำทั้งหมด มอง AI เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ไม่ใช่แทนที่บทบาทของนักเขียน การสร้างสรรค์และการตัดสินใจขั้นสุดท้ายยังคงเป็นของมนุษย์
- ความปลอดภัยของข้อมูล ระมัดระวังในการป้อนข้อมูลที่เป็นความลับหรือข้อมูลส่วนบุคคลเข้าไปในโมเดล AI
Generative AI – Gen AI ด้วย ChatGPT, Gemini, Copilot
ปัจจุบันมีเครื่องมือ Generative AI ยอดนิยมหลายตัวที่สามารถนำมาใช้ในการสร้างสรรค์และพัฒนา Content ได้แก่
- ChatGPT: โมเดลภาษาขนาดใหญ่จาก OpenAI มีความสามารถหลากหลายในการสร้างข้อความ ตอบคำถาม สรุป หรือแม้แต่เขียนโค้ด
- Gemini: โมเดล AI จาก Google ที่ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการทำความเข้าใจและสร้างสรรค์ข้อมูลหลากหลายรูปแบบ ทั้งข้อความ รูปภาพ โค้ด และวิดีโอ
- Copilot: ผู้ช่วย AI ที่ผสานรวมอยู่ในแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Microsoft 365 ช่วยในการเขียนอีเมล สรุปเอกสาร หรือสร้างงานนำเสนอ
การเรียนรู้ที่จะใช้เครื่องมือเหล่านี้อย่างชาญฉลาด จะช่วยให้บุคลากรสามารถสร้างสรรค์เนื้อหาที่มีคุณภาพสูงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ตอบสนองต่อความต้องการของการสื่อสารในยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มศักยภาพ
ผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ยกระดับภาพลักษณ์องค์กรสู่ความเป็นเลิศ
ผู้เข้าอบรมจากหลากหลายหน่วยงานต่างให้การตอบรับอย่างดีเยี่ยม ไม่เพียงแต่ได้รับความรู้และเทคนิคใหม่ๆ เท่านั้น แต่ยังเกิดการ สร้างเครือข่ายนักเขียนคอนเทนต์ภายในมหาวิทยาลัย เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และต่อยอดการสร้างสรรค์ผลงานร่วมกันในอนาคต
“Content Writers Bootcamp” จึงไม่ใช่แค่การอบรม แต่เป็น การลงทุนในการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ให้พร้อมรับมือกับความท้าทายของการสื่อสารยุคใหม่ และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยให้โดดเด่นและน่าจดจำบนโลกออนไลน์
เพราะในยุคนี้ “เขียนให้เป็น” คือเขียนให้โดน และ “เขียนอย่างสร้างสรรค์” คือเขียนให้มีพลัง!”
เสียงสะท้อนจากผู้เข้าอบรม
|
ภาพบรรยากาศการอบรม
|